ประวัติของเล่น
ของเล่นไทยและวิวัฒนาการของเล่น
อดีตในวัยเด็กดูเสมือนเป็นความทรงจำอันมั่นคงที่ไม่เคยลบเลือนหาย
ต่างอย่างสิ้นเชิงกับปัจจุบันที่ไม่เคยหยุดนิ่งและแน่นอน
เสียงหัวเราะ รอยยิ้ม
ความสนุกสนานของวัยเด็กแม้จะเหลือเพียงความทรงจำ
แต่ของเล่นชิ้นเล็กชิ้นน้อยยังเป็นสิ่งหลงเหลือจากความสนุกสนานในวัยเยาว์
ของเล่นจึงเป็นมากไปกว่าวัตถุสิ่งของ
ความทรงจำ ความฝัน
ความสนุกสนานในวัยเยาว์
ยังฝังอยู่ในของเล่น
และยิ่งไปกว่านั้นของเล่นยังเป็นตัวแทนของอดีตที่หลงเหลือมาถึงยุคสมัยปัจจุบัน
ของเล่นในอดีตไม่ได้มีวางขายมากมายก่ายกองเต็มท้องตลาดอย่างเช่นปัจจุบัน
แต่มักเป็นของที่ผลิตขึ้นเองประยุกต์ดัดแปลงไปตามธรรมชาติแวดล้อม
ของเล่นในแต่ละท้องถิ่นจึงมีความแตกต่างหลากหลายกันไป
ในแง่นี้ของเล่นพื้นบ้านจึงเป็นทั้งวัตถุทางวัฒนธรรมที่สะท้อนถึงสภาพวิถีชีวิตความเป็นอยู่ในแต่ละท้องถิ่น
และเป็นร่องรอยของอดีตที่แฝงอยู่ในของเล่น
การเล่นของเด็ก
จากหลักฐานที่ปรากฏมีมาตั้งแต่สมัยอียิปต์โบราณ
แต่หลักฐานนั้นเป็นเพียงท่าทาง
และวิธีการเล่นที่สืบทอดต่อกันมาไม่มีการบันทึกๆไว้เป็นลายลักษณ์อักษร
การเล่นที่มีการบันทึกๆไว้เป็นลาย
ลักษณ์อักษรนั้นเริ่มต้นในสมัยกรีก
ในหนังสือหมากาพย์อีเลียด
(ILLIAD) ของโฮเมอร์
Homer และงานทางจิตรกรรมที่ค้นพบ
การเล่นที่โฮเมอร์ได้กล่าวถึงไว้มีหลายอย่าง
เช่น การแข่งม้า การชกมวย
การเล่นมวยปล้ำ การวิ่งแข่ง
การขว้างจักร การพุ่งเหลน
การยิงธนู
และอื่นๆซึ่งมีการจัดเทศกาลการแข่งขันกันโดยกำหนดเวลาไว้อย่างแน่นอนและสม่ำเสมอ
และในสมัยนี้ได้มีการจัดมหกรรมกีฬาโอลิมปิกขึ้นด้วย
เมื่อเกิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกขึ้นในระยะแรก
ผู้เข้าแข่งขันจะฝึกฝนการเล่นต่างๆด้วยตนเอง
จนถึงศตวรรษที่
7
ก่อน
คริสตกาลจึงมีการฝึกฝนอย่างจริงจังตามกฎเกณฑ์ที่วางไว้อย่างแน่นอน
การเล่นเหล่านี้ยังมีการบรรจุไว้ในหลักสูตรการศึกษาของเด็กชาวกรีกด้วย
ในกรุงสปาร์ตา
(Sparta)
หลักสูตรภาคบังคับจะต้องมีการเล่นอยู่ด้วยและเด็กๆจะได้รับการฝึกฝนใกล้ชิดเป็นพิเศษ
ทั้งนี้เพราะชาวกรีกโบราณถือว่าความสมบูรณ์ของร่างกายเป็นสิ่งสำคัญยิ่งในการที่จะมีชีวิตอยู่รอด
การเล่นของกรีกในช่วงนี้จึงมีลักษณะเน้นหนักในทางออกกำลังกายเป็นส่วนใหญ่
การเล่นของเด็กๆมักจะเปลี่ยนแปลงไปตามสถานที่และสภาพสังคม
ประเทศส่วนมากมักมีการเล่นซึ่งเป็นการเล่นของผู้ใหญ่
เด็กก็จะทำตามอยู่บ้าง
ประเทศทางแถบสแกนดิเนเวียมักจะมีการสร้างป่าและสถานที่ตื่นเต้นน่าผจญภัยให้
เด็กๆเล่นส่วนประเทศในแถบยุโรปและอเมริกาจะสร้างสถานที่เด็กๆที่เป็นสมาชิก
จะได้ทำกิจกรรมร่วมกันเช่น
กองไฟ สร้างกระท่อม
และกิจกรรมอื่นๆโดยเด็กเหล่านั้นจะมีผู้นำ
เมื่อ
4
ศตวรรษที่แล้วเด็กในยุคนั้นจะสนุกอยู่กับการเล่นใหม่เช่น
“ ห่วง “
Hoop
ซึ่งเป็นที่นิยมมาตั้งแต่สมัยโรมัน
และกรีกโบราณก็จะมีเล่นในช่วงนั้นด้วย
ว่าว
เป็นการเล่นที่รู้จักในยุโรปเพราะได้แบบอย่างมาจากจีนและเผยแพร่ออกไป
จนถึงศตวรรษที่
17
จึงมีการเล่นที่นิยมแพร่หลายออกไป
การละเล่นในสมัยโบราณมีหลักฐานปรากฎเป็นภาพวาดอยู่หลายแห่งเช่น
ปรากฎแจกันอายุ
400
ปี ก่อนคริสต์ศักราชและบนกำแพงที่วาดภาพสีจากปอมเปอี
ที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ
เมืองเนเปิลและเมืองโพลุส
( Polluse )
ซึ่งเป็นภาพแสดงถึงการเล่นที่เป็นการต่อสู้กันระหว่าง
2 ฝ่าย
แต่ละฝ่ายจะทราบว่าใครเป็นผู้เล่นก่อนโดยการใช้เหรียญ
หอยหรือใช้คำพูดตัดสิน
เมื่อทราบว่าฝ่ายใดเล่นก่อนแล้ว
ฝ่ายที่เล่นก่อนจะแอบเข้าไปตีที่หลังทางด้านหลังอีกฝ่ายหนึ่ง
จนกว่าฝ่ายที่ถูกตีจะตอบได้ว่าใครเป็นผู้ตี
การเล่นแบบนี้ในอังกฤษเรียกว่า
Hot Cockles และในฝรั่งเศสเรียกว่า
La Main Chaude
โดยจะมีคำร้องประกอบการเล่นด้วย
เช่น
Looby Loo หรือ
Oats and Bean and Barlay Grew
ผู้ที่ริเริ่มการเล่นชนิดนี้คือ
เพลโต การเล่นแบบนี้เริ่มเล่นกันใน
อิตาลี และต่อมาก็เป็นที่นิยมของชาวยุโรป
เป็นที่น่าสังเกตว่า
กำเนิดของการละเล่นหลายอย่าง
เช่น วิ่ง่ไล่จับ หรือโปลิสจับขโมย
( Prisoner’s Base )
มีการเล่นตั้งแต่เทศกาลโอลิมปิกครั้งแรก
ๆ
ส่วนการเล่นซ่อนหา
(
Hide and Seek )
เริ่มต้นจากจากประเพณีที่ผู้คนจะออกจากนอกบ้านในฤดูใบไม้ผลิเพื่อหานก
ดอกไม้และแมลง
จากนั้นก็นำกลับมาบ้านเพื่อแสดงถึงการเริ่มต้นของฤดูใบไม่ผลิมาถึงแล้ว
ในยุโรปบางประเทศผู้ซ่อนจะเลียนแบบนก
เพื่อซ่อนเร้นผู้ที่มีหน้ามี่หานก
การเล่นบางประเภทผู่ใหญ่จะให้การสนับสนุนและเป็นผู้สอนให้เด็กตั้งแต่ยังเป็นทารก
เช่น การสื่อสารด้วยใบหน้า
การใช้นิ้วมือหรือนิ้วเท้าแสดงท่าทาง
เมื่อเด็กเข้าโรงเรียนก็จะมีการเล่นที่โรงเรียนให้เด็กได้สนุกสนานเพลิดเพลินด้วย
เช่น เบสบอล การชกมวย ฟุตบอล
เทนนิส และกีฬาอีกหลายประเภท
โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อเด็ก
ๆ มีร่างกายที่แข็งแรง
มีศีลธรรม มีน้ำใจเป็นนักกีฬา
เป็นที่น่าสังเกตว่าการเล่นแบบนี้จะเพิ่มขึ้นเรื่อย
ๆ และบรรจุลงในหลักสูตรการศึกษา
แล้วค่อย ๆ มีอิทธิพลต่อชีวิตต่อชีวิตเด็ก
ส่วนการเล่นที่เป็นการเล่นดั้งเดิมตามท้องถิ่นต่าง
ๆ จะมีให้เล่นในการฝึกลูกเสือ
เนตรนารี